มายมายค์ >3

วันศุกร์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2555

9 วิธีลดความเครียด


ถ้าพูดถึงเรื่องเครียด ใครไม่เครียดบ้างยกมือขึ้น (มองซ้าย มองขวา -ไม่เห็นมีใครยกมือซักคน) ในปัจจุบัน ต้องบอกว่าทุกคนมีความเครียดกันหมด แต่ไม่ว่าความเครียดของคุณจะอยู่ในระดับ สิ่งสำคัญก่อนอื่นคือ คุณต้องรู้ตัวคุณก่อนว่า คุณกำลังอยู่ในภาวะของความเครียด เมื่อคุณรู้ตัวว่า คุณกำลังเครียดอยู่ ผู้เขียนมีวิธีการในการลดความเครียด 9 วิธี เพื่อช่วยให้คนทำงานผ่อนคลายลงได้ ดังนี้
1. พัฒนาทักษะการบริหารเวลา- เวลาเครียด คนส่วนมากชอบบ่นว่า “งานเยอะ! เวลาน้อย! เครียด!” ดังนั้นวิธีการที่จะลดความเครียดได้ดีที่สุดคือการบริหารเวลาทำงาน แบ่งงานตามลำดับความสำคัญและความเร่งด่วน แล้วทำในสิ่งที่ด่วนและสำคัญก่อน จากนั้นจึงทำงานที่สำคัญแต่ไม่ด่วน ตามด้วยด่วนแต่ไม่สำคัญ แล้วก็ไม่ด่วนและไม่สำคัญ อย่าผลัดวัน ประกันพรุ่งในการทำงาน เพราะงานที่ไม่ด่วนจะกลายเป็นงานด่วนได้ถ้าคุณไม่ทำ แล้วเมื่อมันกลายเป็นงานด่วน มันก็จะกลายเป็นความเครียดด้วย

2. เรียนรู้ที่จะพูดว่า “ไม่” หรือขอความช่วยเหลือ - ถ้างานที่คุณได้รับ มันมากหรือยากเกินกำลังความสามารถของคุณ คุณต้องเรียนรู้ที่จะบอกหัวหน้าของคุณหรือคนที่ขอให้คุณช่วย บอกไปเลยว่า คุณไม่สามารถทำให้ได้พร้อมเหตุผลว่าทำไม แล้วถ้าเขาต้องการให้ทำจริงๆ คุณก็ต้องบอกไปเลยว่า ถ้าจะให้ทำ เขาต้องเข้ามาช่วยคุณอย่างไรบ้าง

3. พยายามผ่อนคลายแล้วหายใจลึกๆ - ถ้าคุณเริ่มรู้สึกเครียดขึ้นมาเพราะงานที่ล้นมือ หรือเพราะใครบางคนยืนอยู่ข้างหน้าคุณ สิ่งที่ดีที่สุดที่คุณควรทำคือการหายใจเข้าลึกๆ “ผ่านทางจมูก” เมื่อคุณเครียด ร่างกายของคุณจะต้องการพลังงานอย่างมากเพื่อเตรียมความพร้อมในการรับมือกับสถานการณ์ความเครียด เมื่อร่างกายต้องการพลังงาน ออคซิเจนจำนวนมากจึงเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างพลังงานที่ต้องการ การหายใจผ่านทางปากจะทำให้ร่างกายได้รับออคซิเจนน้อยกว่าการหายใจผ่านทางจมูก ดังนั้นการสูดหายใจเข้าทางจมูกลึกๆ จะช่วยในการบรรเทาความเครียดได้มากกว่า

4. พักสัก 5 นาที แล้วกลับไปทำงานต่อ - ถ้าการทำงานของคุณ ทำให้คุณรู้สึกเครียด จงเดินออกจากโต๊ะทำงานของคุณสัก 5 นาที เดินไปไหนก็ได้ที่ไม่ใช่โต๊ะทำงานของคุณ แต่ถ้าจะให้ดีแล้ว ลองไปเดินออกกำลังกายดู เช่นเดินขึ้นบันไดเสีย 2 ชั้นแล้วเดินลง การออกกำลังกายจะช่วยลดระดับความเครียดของคุณลงได้

5. ยิ้ม - เรารู้กันดีอยู่แล้วว่า การหัวเราะจะช่วยให้ความเครียดลดลง ถ้าคุณยิ้มก็จะทำให้คนรอบๆ ตัวคุณรู้สึกดีไปด้วย แล้วเขาก็จะยิ้มตอบคุณกลับมา แล้วคุณจะพบว่า โลกรอบๆ ตัวคุณนั้น สดใสกว่าที่คุณคิด

6. ฟังให้มากขึ้น - แทนที่คุณจะมานั่งเครียดกับความคิดเห็นของคนอื่นที่ไม่ลงรอยกับคุณ คุณลองฟังเขาพูดให้มากขึ้น แล้วมองหาหัวข้อที่ลงรอยกันบ้าง แล้วคุณจะพบว่า เขาไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นศัตรูกับคุณ

7. สร้างสมดุลให้กับตัวเอง - ไม่ว่าจะเป็นการนอนหลับพักผ่อนที่เพียงพอต่อร่างกาย การหาเพื่อนที่เราสามารถคุยและระบายความเครียดออกมาให้ฟังได้ หรือแม้แต่การทำให้บรรยากาศรอบตัวเราอยู่ในระดับที่ควรจะเป็น เช่นความสว่างของแสงไฟ ระดับเสียงที่ต้องการ หรือแม้แต่อุณหภูมิของห้อง

8. อย่าเครียดกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง - เรื่องบางเรื่องที่คุณรู้ อาจจะเป็นแค่เรื่องที่คุณต้องรู้แต่ไม่ใช่เรื่องให้คุณต้องคิด หรือเรื่องบางเรื่องที่คุณรู้แล้วก็ทำอะไรไม่ได้ ถ้าเป็นเช่นนั้นอย่านำมาคิดให้เสียเวลา มันทำให้คุณเครียดโดยใช่เหตุ

9. อยู่กับคนที่ชอบมองโลกในแง่บวก - การที่คุณอยู่กับคนที่มองโลกในแง่ลบ ดีแต่จะทำให้คุณเครียดแล้วก็มองโลกในแง่ลบด้วย ดังนั้นถ้าเป็นไปได้ จงอยู่กับคนที่มองโลกในแง่บวก แล้วความคิดของคุณก็จะสดใสไปด้วย

หวังว่า 9 วิธีลดความเครียดนี้จะสามารถช่วยคุณผู้อ่านได้ ไม่มากก็น้อย ว่าแต่...

คุณรู้ตัวหรือยังว่า คุณกำลังเครียดอยู่!

เรื่อง : วรรพร สิมะโรจน์ ที่ปรึกษา บริษัท ออคิด สลิงชอท จำกัด
ที่มา : หนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายสัปดาห์

6 วิธีลดน้ำหนักง่าย ๆ โดยไม่ต้องอดอาหาร

6 วิธีลดน้ำหนักง่าย ๆ โดยไม่ต้องอดอาหาร
ลดน้ำหนัก เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม สาว ๆ ที่วางแผนจะลดน้ำหนัก แต่ไม่อยากอดอาหารจะทำอย่างไรดี วันนี้เรามี 6 วิธีลดน้ำหนักง่าย ๆ โดยไม่ต้องสนใจสูตรไดเอทไหน ๆ มาบอกกันด้วย 1.ดื่มเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพเท่านั้น ง่าย ๆ เลยก็คือ เวลาคุณสาว ๆ เข้าร้านอาหาร อย่าสั่งพวกน้ำอัดลม หรือชามะนาวที่สามารถเติมได้ไม่อั้นอย่างเด็ดขาด เพราะมันจะยิ่งทำให้คุณดื่มมากขึ้น แนะนำให้หันมาดื่มชาสมุนไพร น้ำมะนาว ไดเอท-โซดา จะดีกว่า แต่ถ้าจะให้ดีที่สุด "น้ำเปล่า" นี่แหละค่ะ ตัวช่วยลดน้ำหนักที่ดีสำหรับสาว ๆ เลย 2.ทานอาหารเช้าให้เป็นนิสัย อาหารเช้าคือมื้อสำคัญที่สุดของวัน หากคุณสาว ๆ ไม่ยอมทานอาหารเช้า จะทำให้ตอนบ่าย รวมทั้งตอนกลางคืนคุณจะรู้สึกอยากทานอาหารมากกว่าปกติ นอกจากนี้ การไม่ทานอาหารเช้าแล้วปล่อยให้ท้องว่างเป็นเวลานานก่อนจะถึงมื้อต่อไป จะทำให้ระบบการเผาผลาญทำงานช้าลงด้วย แต่ถ้าตอนเช้าคุณไม่รู้สึกหิว แสดงว่าคุณทานอาหารมื้อดึกในช่วงเวลาที่ใกล้จะเข้านอนแล้ว เพราะฉะนั้นควรจะทานอาหารเย็นให้เร็วขึ้น โดยปกติไม่ควรทานอาหารเย็นเกินหนึ่งทุ่ม เพื่อที่ตอนเช้าคุณจะได้รู้สึกอยากทานอาหาร 3.จิบน้ำทีละน้อย ในระหว่างวัน คุณสาว ๆ คงมักจะได้ยินคนพูดกันว่า ให้ดื่มน้ำวันละ 6-8 แก้วต่อวัน ร่างกายจะได้ไม่ขาดน้ำ ซึ่งน้ำในที่นี้ไม่ได้หมายถึง "น้ำเปล่า" อย่างเดียว เพราะยังรวมถึงน้ำจากผลไม้สดที่เราทานเข้าไปด้วย แต่คุณไม่ควรปล่อยให้เราหิวน้ำเสียก่อนถึงจะดื่มน้ำเสียล่ะ เพราะจริง ๆ แล้วเราควรจิบน้ำทีละน้อย ๆ ในแต่ละวัน แล้วคุณจะแปลกใจว่า มันช่วยให้ความอยากอาหารของร่างกายลดลงได้ด้วย 4.ทานผักผลไม้มาก ๆ ทานผลไม้ทั้งเปลือก เช่น แอปเปิ้ล ซึ่งเต็มไปด้วยไฟเบอร์ จะช่วยให้คุณรู้สึกอิ่มนาน และทานได้น้อยลง และจำไว้ว่า แม้ผักและผลไม้เต็มไปด้วยสารอาหาร แถมยังมีแคลอรีต่ำก็จริง แต่ต้องระวังหากทานผักผลไม้ร่วมกับน้ำสลัดที่มีแคลอรีสูง เนย ชีสซอส หรือทานกับพวกพาสต้าสลัด ครีมสลัด เพราะมันอาจทำให้คุณอ้วนได้ แล้วจะมาอ้างว่า ทานผักผลไม้เยอะแล้วไม่ได้ล่ะ 5.ทานโฮลเกรน อาหารจำพวกโฮลเกรนจะช่วยให้คุณอิ่มได้นานกว่าคาร์โบไฮเดรตประเภทอื่น ๆ โดยเฉพาะในตอนเช้า โฮลเกรนเป็นตัวเลือกที่ดีตัวหนึ่งของสาว ๆ เลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นข้าวโอ๊ต ขนมปังโฮลเกรน แครกเกอร์โฮลวีท จะช่วยเพิ่มเส้นใยให้ร่างกายของคุณได้ดีเลยล่ะ 6.พักผ่อนให้เพียงพอ รู้ไหมว่า การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ จะทำให้น้ำหนักลงลงได้ด้วย นอกจากนี้ ยังทำให้คุณมีพลังเต็มเปี่ยมที่จะออกกำลังกาย หรือทำงานได้มีประสิทธิภาพ แต่หากคุณไม่มีเวลานอนหลับมากมาย ลองทำวิธีง่าย ๆ เช่น ฝึกการหายใจลึก ๆ อ่านหนังสือ หรือฟังเพลง ฟังเสียงดนตรีที่สงบ ๆ ทุก ๆ วัน จะช่วยให้คุณรู้สึกสบาย และลดความอยากทานอาหารตามอารมณ์ได้มากขึ้น

วันพฤหัสบดีที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2555

วิธีลดต้นขา แบบง่ายๆที่คุณก็ทำเองที่บ้านได้

วิธีลดต้นขา

ผู้หญิงกับเรื่องสวยๆงามๆเป็นเรื่องที่แยกจากกันไม่ได้
  ซึ่งเราจะได้เห็นจากผลิตภัณฑ์ต่างๆที่ออกมาเพื่อความสวยงามของผู้หญิง ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้าเครื่องสำอาง ฯลฯ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรัผู้หญิง คือ รูปร่าง ซึ่งรูปร่างของแต่ละบุคคลก็มีความแตกต่างกันออกไป บางคนมีรูปทรงอย่างหุ่นแอปเปิ้ล

บางคนรูปร่างทรงลูกแพร์ ซึ่งแต่ละรูปร่างก็จะมีเทคนิคการลดสัดส่วนแตกต่างกันออกไป อวัยวะส่วนหนึ่งที่เป็นปัญหาด้านความอ้วนให้แก่ผู้หญิงที่สำคัญอีกส่วนหนึ่ง คือ ต้นขา เพราะการที่มีต้นขาใหญ่นั้น ทำให้ผู้หญิงมีความไม่มั่นใจในตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการสวมใส่เสื้อผ้า ทำให้ตนนั้นใส่เสื้อผ้าไม่สวย แม้แต่เป็นผลกระทบถึงทางด้านจิตใจไปเลยทีเดียว ผลตามมาอีก

อย่างก็คือ ในรายที่มีต้นขาใหญ่มากๆนั้น สามารถทำให้เกิดความอับชื้นในบริเวณขาหนีบด้านในจนทำให้สามารถเกิดแหล่งเพาะเชื้อราขึ้นมาได้ เกิดมีอาการคันขึ้นมาเนื่องจากการอับชื้นเพราะการมีต้นขาที่ใหญ่นั่นเอง
วิธีลดต้นขา นั้นไม่ถือว่าเป็นส่วนที่ยากที่สุด สามารถทำได้ง่ายๆ  สามารถทำได้ในที่แคบ ที่ทำงาน หรือที่ที่จำกัดเนื้อที่ได้ มีหลายวิธีด้วยกัน เช่น การยืน เอามือพิงกำแพงข้างใดข้างนึง แล้ว ยกขาอีกด้านนึงขึ้นมาเหวี่ยงไปหน้า และ เหวี่ยงไปด้านหลัง

ทำแบบนี้ 
15-20 ที เซ็ท ทำสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง ทุกสัปดาห์ ก็จะสามารถทำให้ต้นขาของคุณเล็กลงได้ เพียง3-4ครั้งต่อสัปดาห์เท่านั้น แต่ขอให้ทำอย่างต่อเนื่อง คุณก็จะสามารถมีต้นขาที่สวยงามได้นอกเหนือจากการออกกำลังกายเฉพาะส่วนแล้วการนวดก็เป็นอีก
 วิธีลดต้นขา ที่ทำให้ต้นขานั้นเล็กลง โดยให้นวดเป็นวงเบาๆ ไปให้ทั่วบริเวณขาของคุณเป็นเวลา 10-20 นาที ทุกวัน เพียงเท่านี้ก็จะสามารถทำให้ต้นขาของคุณเล็กลงได้ แต่เราจะเห็นความแตกต่างของต้นขาที่ลดลงได้ไม่เท่าการออกกำลังกายเฉพาะส่วน 
วิธีลดต้นขาจึงเป็นวิธีการช่วยเสริมวิธีการออกกำลังกายในเบื้องต้นนั่นเอง และข้อดีนอกเหนือจากการได้ลดลงของต้นขาแล้ว วิธีลดต้นขายังสามารถทำให้เซลลูไลท์บริเวณต้นขานั้นน้อยลงด้วย เนื่องจากการนวดนั้นเป็นการขับไล่สารพิษออกจากร่างกาย จึงส่งผลให้เซลลูไลท์นั้นมีขนาดเล็กลงไป  การขัดผิวโดยใช้ไยบวบ ก็เป็นวิธีลดต้นขาเราให้เล็กลง วิธีการให้ทำแบบการนวด โดยใช้ใยบวบแทนการนวด วิธีการนี้ก็เป็นวิธีการที่ง่ายอีกวิธีหนึ่ง
การทานสาหร่ายทะเล มีความเชื่อว่าการรับประทานสาหร่ายทะเลนั้นทำให้ต้นขาเล็กลง เนื่องจากสาหร่ายทะเลมีสารอาหารชนิดหนึ่งซึ่งสารอาหารชนิดนี้อาจส่งผลทำให้ต้นขาเล็กลงได้
การเดิน การเดินนั้นเคยมีความเชื่อผิดๆว่าการเดินมากทำให้ขาใหญ่ แต่จริงๆแล้วการเดินเร็วๆนั้นทำให้ต้นขาของเรากระชับขึ้น และเป็น
วิธีลดต้นขาที่ดีอีกวิธีหนึ่ง เนื่องจากการทำงานของกล้ามเนื้อจากการเดินนั้นทำให้กล้ามเนื้อแข็งแกร่งขึ้น เมื่อกล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้นจึงทำให้ไขมันบริเวณนั้นถูกเผาผลาญได้อย่างดี จึงทำให้ต้นขาของเราเล็กลง และดูสวยงามยิ่งขึ้น อย่างไรก็แล้วแต่ การออกกำลังกายก็ควรทำให้พอเหมาะพอดีเพราะการที่ออกกำลังกายมากเกินไป ก็สามารถทำให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นเกิดการอักเสบได้ 

ท่าบริหารและวิธีลดต้นขา

1.ยืนตัวตรง แล้วใช้นิ้วเท้าจิกพื้น พยูงตัวให้สูงขึ้น  หายใจออก ค้างไว้ ลดส้นเท้าลง หายใจเข้า ทำอย่างนี้สลับกันไปเรื่อยๆ 20 ครั้ง เซ็ท



2.นั่งบนเก้าอี้ หลังพิงพนักเก้าอี้ ยืดหลังตรง แล้วยกเท้าทั้งสองข้างขึ้นมาให้เสมอขาในแนวนอน หายใจเข้า ลดเท้าลงตั้งฉากกับต้นขาหายใจออก ทำอย่างนี้สลับกัน 20 ครั้ง 3เซ็ท3.เอามือพิงกำแพงข้างใดข้างหนึ่ง  แล้วยกขาอีกด้านหนึ่งขึ้น เหวี่ยงออกข้างตัว ยกขาขึ้นมาจนถึงบริเวณสะโพก หายใจเข้า  ค้างไว้แล้วลดขาลง หายใจออก ทำสลับกันอย่างนี้ 20 ครั้ง เซ็ทการบริหารด้านต้นนี้เป็นคำแนะนำ อยากให้ผู้อ่านได้ลองนำไปปฏิบัติดู เพื่อความสวยงามของคุณทุกคน เราจะเห็นได้ว่าไม่เป็นการยากเลยในการที่จะลดสัดส่วนที่ไม่ต้องการ เราไม่จำเป็นต้องเสียเงินมากมาย

การลดน้ำหนัก อย่างที่เห็นโฆษณาตามสื่อต่างๆมากมาย เพราะนั่นทำให้เสียเงินทองเป็นจำนวนมาก การออกกำลังกายนั้นนอกจากจะได้สัดส่วนที่เราพอใจแล้วนั้น สิ่งที่ได้ตามมาด้วยคือ สุขภาพที่ดีด้วย